หูฟังแพทย์ (Stethoscope) อุปกรณ์ข้างกายคุณหมอที่ควรดูแลรักษาให้ถูกวิธี

หูฟังแพทย์หรือที่เรียกว่า Stethoscope เป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งและได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของวิชาชีพแพทย์มานาน อุปกรณ์ชิ้นนี้ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องมือพื้นฐานที่แพทย์ใช้ในการวินิจฉัยโรค แต่ยังเป็นสะพานเชื่อมระหว่างแพทย์และผู้ป่วย เปิดโอกาสให้แพทย์ได้รับฟังเสียงภายในร่างกายที่บ่งบอกถึงความผิดปกติหรือภาวะสุขภาพของผู้ป่วย

บทความนี้จะพาท่านไปทำความรู้จักกับหูฟังแพทย์หรือ Stethoscope อย่างละเอียด ส่วนประกอบสำคัญ หลักการทำงาน ประเภทต่าง ๆ ไปจนถึงเทคโนโลยีล่าสุดและข้อแนะนำในการเลือกซื้อ ไม่ว่าท่านจะเป็นบุคลากรทางการแพทย์ นักศึกษาแพทย์ หรือเพียงแค่ผู้ที่สนใจในอุปกรณ์ทางการแพทย์ บทความนี้จะช่วยให้ท่านเข้าใจหูฟังแพทย์ได้อย่างครบถ้วนและลึกซึ้งยิ่งขึ้น

หูฟังแพทย์ (Stethoscope) คืออะไร

หูฟังแพทย์หรือสเต็ทโตสโคป (Stethoscope) คือ เครื่องมือตรวจร่างกายทางการแพทย์ที่ใช้สำหรับฟังเสียงที่เกิดขึ้นภายในร่างกายของผู้ป่วย โดยเฉพาะเสียงหัวใจ เสียงปอด และเสียงในช่องท้อง เป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์พื้นฐานที่แพทย์ใช้ในการวินิจฉัยโรคและประเมินสภาวะของผู้ป่วย

ส่วนประกอบหูฟังแพทย์

ส่วนประกอบพื้นฐานของหูฟังแพทย์ (Stethoscope)

  1. หัวฟัง (Chest piece)ส่วนที่วางสัมผัสกับผิวหนังของผู้ป่วย โดยทั่วไปมีสองด้าน
    • ไดอะแฟรม (Diaphragm) แผ่นกลมแบนใช้สำหรับรับเสียงความถี่สูง เช่น เสียงหายใจปกติ เสียงหัวใจปกติ
    • เบลล์ (Bell) ส่วนที่เป็นรูประฆัง ใช้ฟังเสียงความถี่ต่ำ เช่น เสียงผิดปกติของหัวใจ (heart murmur) เสียงลำไส้บางชนิด
  2. ท่อยาง (Tubing) ท่อยางยืดหยุ่นรูปตัว Y ที่นำเสียงจากหัวฟังไปยังหูของผู้ใช้ โดยทั่วไปมีความยาวประมาณ 45-68 เซนติเมตร (18-27 นิ้ว)
  3. ชุดหูฟัง (Headset) ประกอบด้วย
    • ท่อโลหะ (Ear tubes) ท่อโลหะที่นำเสียงไปยังรูหู
    • จุกหูฟัง (Ear tips) ส่วนที่ทำจากยางนุ่มสำหรับใส่เข้าไปในรูหู ช่วยปิดกั้นเสียงรบกวนจากภายนอก

ประเภทของหูฟังแพทย์ (Stethoscope)

  1. หูฟังแพทย์ Stethoscope แบบดั้งเดิม (Analogue/Traditional Stethoscope) 
    เป็นแบบที่ใช้กันทั่วไปมากที่สุด ไม่มีส่วนประกอบอิเล็กทรอนิกส์ เสียงเดินทางจากร่างกายของผู้ป่วยไปยังหูของแพทย์โดยตรงผ่านท่อยาง
  2. หูฟังแพทย์ Stethoscope อิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Stethoscope)มีเทคโนโลยีขั้นสูงที่ช่วยขยายเสียงภายในร่างกายให้ชัดเจนยิ่งขึ้น มีระบบลดเสียงรบกวนจากภายนอก และสามารถบันทึกเสียงเพื่อฟังภายหลังได้
  3. หูฟังแพทย์ดิจิทัล (Digital Stethoscope)
    มีเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยกว่าแบบอิเล็กทรอนิกส์ สามารถแปลงเสียงเป็นข้อมูลภาพ (เช่น กราฟ) เพื่อช่วยให้แพทย์เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นภายในร่างกายได้ดียิ่งขึ้น สามารถดาวน์โหลดข้อมูลไปยังคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อื่น ๆ เพื่อวิเคราะห์เสียงด้วยซอฟต์แวร์
  4. หูฟังแพทย์ Stethoscope เฉพาะทาง ออกแบบเฉพาะสำหรับการใช้งานพิเศษ เช่น
    • หูฟังแพทย์สำหรับเด็ก (Pediatric Stethoscope) มีหัวฟังขนาดเล็กเหมาะสำหรับทารกและเด็ก
    • หูฟังแพทย์ทางสูติกรรม (Fetal Stethoscope) ใช้ฟังเสียงหัวใจของทารกในครรภ์

นวัตกรรมและเทคโนโลยีล่าสุดของหูฟังแพทย์ (Stethoscope)

Smart Digital Stethoscope

1.Smart Digital Stethoscope จากมหาวิทยาลัยจอห์นส์ฮอปกินส์ มีการพัฒนาหูฟังแพทย์ดิจิทัลอัจฉริยะที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ร่วมกับวัสดุรับเสียงใหม่ เพื่อวินิจฉัยโรคทางเดินหายใจได้แม่นยำยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในเด็ก

Feelix

2. Feelix เป็นอุปกรณ์ที่ได้รับการอนุมัติจาก FDA และทำการตลาดโดยบริษัท Sonavi Labs ใช้วัสดุพิเศษที่สามารถปรับเพื่อลดเสียงรบกวนจากภายนอก ทำให้เสียงปอดชัดเจนยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังใช้โมเดล AI ของทางเดินหายใจและเครือข่ายประสาทเทียมในการวิเคราะห์เสียงการหายใจ

Stemoscope PRO

3. Stemoscope PRO นวัตกรรมหูฟังแพทย์สำหรับการเรียนการสอน (Teaching Stethoscope) ที่ใช้เทคโนโลยี Bluetooth เพื่อส่งสัญญาณเสียงไปยังแอปพลิเคชันสมาร์ทโฟนและหูฟังบลูทูธได้ในเวลาเดียวกัน ช่วยให้อาจารย์และนักเรียนสามารถฟังเสียงเดียวกันได้พร้อมกัน ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับการศึกษาทางการแพทย์

หลักการทำงานของหูฟังแพทย์ (Stethoscope)

หลักการทำงานของหูฟังแพทย์ (Stethoscope) มีอะไรบ้าง

หูฟังแพทย์ทำงานโดยการจับเสียงจากภายในร่างกายและส่งเสียงเหล่านั้นผ่านท่อกลวงไปยังหูของผู้ใช้ กระบวนการนี้เกิดขึ้นดังนี้

  1. การจับเสียงเมื่อแพทย์วางหัวฟัง (ไดอะแฟรมหรือเบลล์) บนผิวของผู้ป่วย การเคลื่อนไหวภายในร่างกาย (เช่น การเต้นของหัวใจ) จะสร้างคลื่นเสียงที่เดินทางผ่านเนื้อเยื่อของร่างกาย
  2. การถ่ายทอดคลื่นเสียง คลื่นเสียงเหล่านี้ทำให้ไดอะแฟรมหรือเบลล์สั่น
    • ไดอะแฟรม ทำงานโดยตรงกับเสียงความถี่สูง เช่น เสียงการหายใจและเสียงหัวใจปกติ แผ่นแบนจะสั่นโดยตรงเนื่องจากคลื่นเสียงความถี่สูง
    • เบลล์ ทำงานแตกต่างกันเล็กน้อย โดยจับการสั่นของผิวหนังที่เกิดจากเสียงความถี่ต่ำ ส่วนที่เป็นโลหะขอบบางสัมผัสกับผู้ป่วยด้วยพื้นที่ผิวน้อยกว่า
  3. การสะท้อนหลายครั้ง (Multiple Reflection)
    การสั่นถูกนำไปตามท่อยาง และคลื่นเสียงจะสะท้อนจากผนังด้านในของท่อยาง ช่วยรักษาและส่งต่อเสียงไปยังหูของผู้ใช้
  4. การขยายเสียง
    เนื่องจากการสั่นที่กระทบกับหัวฟังถูกรวมเข้าสู่ท่อแคบ แทนที่จะปล่อยให้เดินทางออกไปอย่างอิสระ จึงทำให้เสียงถูกขยายให้ดังขึ้น
  5. การได้ยิน เสียงเหล่านี้เดินทางผ่านท่อยางและท่อโลหะไปยังจุกหูฟังและกระทบแก้วหูของผู้ใช้ ทำให้ได้ยินเสียงจากภายในร่างกายผู้ป่วยได้ชัดเจน

การใช้งานหูฟังแพทย์ (Stethoscope)

  1. การสวมใส่ที่ถูกต้อง: สวมจุกหูฟังโดยหันไปทางด้านหน้าเล็กน้อย เพื่อให้เสียงเข้าหูได้อย่างชัดเจน ปรับความแน่นของท่อยางให้พอดี ไม่หลวมหรือแน่นเกินไป
  2. การจับหูฟัง: จับส่วนหัวฟัง (ไดอะแฟรมหรือเบลล์) ด้วยนิ้วและฝ่ามือข้างที่ถนัด วางบนผิวหนังผู้ป่วยโดยกดให้แนบสนิทพอดี ไม่กดแรงเกินไป
  3. การฟังเสียงหัวใจ: วางหัวฟังตามตำแหน่งต่าง ๆ บนหน้าอก เริ่มจากบริเวณใต้กระดูกไหปลาร้าด้านขวา ลงมาตามขอบกระดูกหน้าอกด้านซ้าย และบริเวณยอดหัวใจ
  4. การฟังเสียงปอด: ให้ผู้ป่วยหายใจเข้า-ออกลึก ๆ ทางปาก วางหัวฟังทั่วบริเวณหน้าอกและหลัง เปรียบเทียบเสียงทั้งสองข้าง
  5. การใช้งาน 3M Littmann Classic III: หูฟังรุ่นนี้มีหัวฟัง (Chest Piece) 2 ด้าน สามารถสลับใช้งานได้สะดวก
    • ด้านไดอะแฟรม: สำหรับผู้ใหญ่
    • ด้านเบลล์: สำหรับเด็กหรือผู้ใหญ่ที่มีร่างเล็ก
    • เทคนิคพิเศษของ Littmann Classic III: (Chest Piece) ทั้ง 2 ด้าน ซึ่งสามารถฟังความถี่ต่ำ-สูงได้โดยการปรับแรงกดขณะใช้งาน
      • ความถี่ต่ำ : ฟังเสียงความถี่ต่ำโดยการกดเบา ๆ กับผู้ป่วย
      • ความถี่สูง : ฟังเสียงความถี่สูง โดยการเพิ่มแรงกดกับผู้ป่วย

การดูแลรักษาหูฟังแพทย์ Stethoscope

การเลือกซื้อและดูแลรักษาหูฟังแพทย์ (Stethoscope)

  1. คุณภาพเสียง
    ควรเลือกหูฟังแพทย์ที่สามารถจับทั้งเสียงความถี่ต่ำและความถี่สูงได้ดี ไดอะแฟรมแบบปรับได้หรือหัวฟังสองด้านเป็นตัวเลือกที่ดี นอกจากนี้ ความสามารถในการลดเสียงรบกวนจากภายนอกก็สำคัญ
  2. ความทนทาน
    นื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ทุกวัน ควรเลือกหูฟังแพทย์ที่ทนทาน ผลิตจากสแตนเลสและยาง มีท่อยางที่ยืดหยุ่น
  3. ความเหมาะสมกับการใช้งาน เลือกให้เหมาะกับผู้ป่วยที่คุณดูแล เช่น ถ้าดูแลเด็กเป็นส่วนใหญ่ ควรเลือกแบบที่มีหัวฟังขนาดเล็ก สำหรับการดูแลผู้ป่วยวิกฤตอาจต้องการหูฟังแพทย์ระดับสูงที่มีคุณสมบัติทันสมัย

 การดูแลรักษาหูฟังแพทย์ Stethoscope

  1. การทำความสะอาด เช็ดหูฟังแพทย์ด้วยแอลกอฮอล์ 70% หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเฉพาะหลังการใช้งานทุกครั้งเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค
  2. การเก็บรักษา เก็บในที่แห้ง หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดโดยตรงหรือความร้อนสูง ไม่ควรพับหรืองอท่อยางมากเกินไป
  3. การตรวจสอบเป็นประจำ หมั่นตรวจสอบความเสียหายของชิ้นส่วนต่าง ๆ เช่น จุกหูฟัง ไดอะแฟรม และเปลี่ยนเมื่อจำเป็น

แบรนด์หูฟังแพทย์ (Stethoscope) ที่ได้รับความนิยม

 1. 3M Littmann เป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดและเป็นที่ยอมรับในระดับโลก มีรุ่นที่ได้รับความนิยมเช่น

  • Littmann Classic III เหมาะสำหรับการตรวจประเมินทั่วไป นิยมใช้ในกลุ่มแพทย์ พยาบาล และนักศึกษาแพทย์
  • Littmann Master Cardiology ให้คุณภาพเสียงที่ดีเยี่ยม เหมาะสำหรับแพทย์เฉพาะทางด้านหัวใจ
  • Littmann CORE Digital หูฟังแพทย์ดิจิทัลที่ทันสมัย มีเทคโนโลยีดิจิทัลช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการฟัง
  1. American Diagnostic Corporation (ADC)  มีหูฟังแพทย์หลายรุ่นที่มีคุณภาพดีในราคาที่เข้าถึงได้ เช่น
    • ADC Adscope รุ่นทั่วไปที่ได้รับความนิยม
    • ADC Adscope 601 มีคุณภาพดีในราคาที่เหมาะสม
  1.  Welch Allyn แบรนด์ชั้นนำที่ผลิตอุปกรณ์การแพทย์คุณภาพสูง
    • Harvey Elite มีคุณภาพเสียงที่ดีเยี่ยม
  1.  MDF Instruments  แบรนด์ที่มีชื่อเสียงด้านความทนทานและการออกแบบที่สวยงาม
    • MDF MD One เป็นตัวเลือกที่ดีในงบประมาณระดับกลาง
  1. Eko แบรนด์ที่นำเสนอหูฟังแพทย์ดิจิทัลที่ทันสมัย
    • Eko CORE สามารถแปลงหูฟังแพทย์ทั่วไปให้เป็นดิจิทัลได้

หาซื้อหูฟังแพทย์ (Stethoscope) จากที่ไหนได้บ้าง

หากท่านกำลังมองหาหูฟังแพทย์ (Stethoscope) คุณภาพดีที่ใช้ในโรงพยาบาลทั่วไป เพื่อให้ได้อุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพสูง รับฟังเสียงได้ชัดเจน ทนทานต่อการใช้งาน ท่านสามารถเลือกซื้อหูฟังแพทย์ 3M Littmann Classic III ได้ที่ Syn Biotech Care สำหรับท่านที่ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือต้องการสั่งซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์อื่น ๆ นอกเหนือจากหูฟังแพทย์ ทาง Syn Biotech Care มีบริการเช่นกัน พร้อมบริการจัดส่งทั้งปลีกและส่งถึงบ้านด้วยความปลอดภัย


อ้างอิง:

https://www.littmann.3m.com.my

https://sonavilabs.com/feelix/

https://www.littmann.com/en-us/home/core-digital-stethoscope/

https://stemoscope.com/

https://mediworld.co.uk/blogs/stethoscope-hub-2