เครื่องสั่นปอด-เครื่องเคาะปอด-คืออะไร

เครื่องสั่นปอด คืออะไร? อุปกรณ์ช่วยระบายเสมหะ ลดโอกาสปอดติดเชื้อ สำหรับผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ และเด็ก

ปัญหาหนักใจของผู้ดูแลผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ และผู้ปกครองที่มีลูกป่วย คือภาวะ “เสมหะเหนียวข้น” ที่ระบายออกยาก ซึ่งนำไปสู่ความเสี่ยงของภาวะปอดอักเสบและติดเชื้อ การทำกายภาพบำบัดด้วยมือแบบดั้งเดิมอาจไม่เพียงพอและสร้างความเหนื่อยล้าให้กับผู้ดูแล

ปัจจุบัน “เครื่องสั่นปอด” (Chest Vibrator) หรือ “เครื่องเคาะปอด” กลายมาเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยระบายเสมหะได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเสี่ยง และช่วยให้ผู้ป่วยหายใจโล่งสบายขึ้น บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับทางเลือกทั้งหมด ตั้งแต่วิธีดั้งเดิม สู่สุดยอดนวัตกรรมเครื่องสั่นปอดแบบเสื้อกั๊ก (HFCWO) และเครื่องนวดที่ประยุกต์ใช้ได้

ใครบ้างที่ควรใช้เครื่องสั่นปอด?

อุปกรณ์นี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะผู้สูงอายุเท่านั้น แต่เหมาะสำหรับทุกคนที่มีปัญหาในการระบายเสมหะ ได้แก่:

  1. ผู้ป่วยเด็กที่มีปัญหาทางเดินหายใจ: เช่น เด็กที่เป็นปอดบวมบ่อย, มีเสมหะคั่งค้างลึก, หรือเด็กกลุ่มโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงที่แรงไอไม่เพียงพอ (เครื่องสั่นปอดความถี่สูง รุ่น P30 มีเสื้อกั๊กขนาดเล็กสำหรับเด็กโดยเฉพาะ)
  2. ผู้ป่วยติดเตียง (Bedridden): ผู้ที่นอนนาน ขยับตัวน้อย ทำให้เสมหะตกตะกอนที่ปอดส่วนล่างได้ง่าย
  3. ผู้สูงอายุ: ที่ระบบการไอเริ่มเสื่อมสภาพ หรือมีภาวะสำลักง่าย
  4. ผู้ป่วยเจาะคอ: ที่ต้องการลดความเสี่ยงการติดเชื้อจากการดูดเสมหะบ่อยเกินไป
  5. ผู้ที่มีเสมหะเหนียวข้น: ผู้ป่วยที่รู้สึกว่ามีเสมหะติดคอ ไอไม่ออก หรือดูดเสมหะแล้วออกมาได้น้อย


1. การสั่นปอดดั้งเดิม: เทคนิคการเคาะด้วยมือ

การสั่นปอด หรือการเคาะปอดด้วยมือ (Manual Chest Physiotherapy)

วิธีดั้งเดิมที่บุคลากรทางการแพทย์ใช้มาอย่างยาวนาน โดยประกอบด้วยขั้นตอนหลักตามแนวทางโรงพยาบาลชั้นนำ ดังนี้

การจัดท่าเคาะปอด
  1. การจัดท่า (Positioning)
    เป็นการอาศัยหลักการแรงโน้มถ่วง เพื่อระบายเสมหะจากส่วนต่าง ๆ ของปอด

    ท่าพื้นฐาน
    • นอนหงาย: สำหรับระบายส่วนหน้าของปอดส่วนบน ยกหัวเตียงประมาณ 30-45 องศา
    • ท่านอนคว่ำ: ช่วยระบายส่วนหลังของปอดส่วนบน วางหมอนรองใต้ท้อง
    • ท่าตะแคง: ทั้งซ้ายและขวา สำหรับระบายด้านข้างของปอด

2. การเคาะปอด (Percussion)
เป็นเทคนิคการใช้แรงเคาะเป็นจังหวะเพื่อช่วยให้เสมหะที่ติดแน่นบนผนังหลอดลมหลุดร่อน

วิธีการปฏิบัติที่ถูกต้อง:

  • เทคนิคที่ถูกต้อง: ผู้ดูแลต้องทำมือเป็นลักษณะ “รูปถ้วย” (Cupped Hand) นิ้วชิดกัน เพื่อให้เกิดโพรงอากาศขณะกระทบผิวหนัง
  • จังหวะ: เคาะลงบนผนังทรวงอกเหนือตำแหน่งปอด เป็นจังหวะสม่ำเสมอ ไม่ช้าหรือเร็วเกินไป เสียงที่ได้ควรเป็นเสียงโปร่ง ๆ (คล้ายม้าวิ่ง) ไม่ใช่เสียงแปะ ๆ เหมือนการตบตี ซึ่งอาจทำให้ผู้ป่วยเจ็บผิวหนังได้
  • ข้อควรระวัง: หลีกเลี่ยงการเคาะบริเวณกระดูกสันหลัง กระดูกไหปลาร้า หัวใจ ตับ ไต และต่อมน้ำนมในผู้หญิง

3. การสั่น (Vibration)
เป็นเทคนิคเสริมที่ใช้ร่วมกับการเคาะ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขับเสมหะ

วิธีการปฏิบัติ:

  • วางมือราบบนทรวงอกผู้ป่วย
  • เกร็งกล้ามเนื้อแขนและไหล่ เพื่อสร้างการสั่นไหวที่มีความถี่สูง (ประมาณ 12-20 ครั้งต่อวินาที)
  • ทำขณะที่ผู้ป่วยหายใจออก เนื่องจากเป็นช่วงที่หลอดลมหดตัว ทำให้เสมหะเคลื่อนที่ออกมาได้ง่าย
  • ใช้เวลาประมาณ 5-7 รอบการหายใจต่อบริเวณ
  • อาจกดเบาๆ ลงบนทรวงอกพร้อมกับการสั่น เพื่อเพิ่มแรงดันภายในปอด

ข้อควรระวัง:

  • หลีกเลี่ยงการทำในผู้ป่วยที่มีกระดูกหัก กระดูกพรุน หรือมีบาดแผลบริเวณทรวงอก
  • ไม่ควรทำภายใน 1-2 ชั่วโมงหลังรับประทานอาหาร เพื่อป้องกันอาการคลื่นไส้อาเจียน

2. เครื่องสั่นปอดความถี่สูง HFCWO: นวัตกรรมการดูแลผู้ป่วย 

เพื่อแก้ปัญหาความเหนื่อยล้าและความไม่สม่ำเสมอของแรงที่ใช้ในการเคาะด้วยมือ รวมถึงข้อจำกัดด้านเวลาและความชำนาญของผู้ดูแล จึงเกิดนวัตกรรมทางการแพทย์ที่เรียกว่า High-Frequency Chest Wall Oscillation (HFCWO) หรือที่รู้จักกันในชื่อ “เครื่องสั่นปอดความถี่สูง” หรือ “เสื้อกั๊กสั่นปอด” (The Vest)

นวัตกรรมนี้ได้รับการยอมรับและใช้กันอย่างแพร่หลายในโรงพยาบาลชั้นนำ เพื่อช่วยเคลียร์ทางเดินหายใจให้กับผู้ป่วยที่มีภาวะเสมหะคั่งค้างเรื้อรัง

เครื่องสั่นปอดความถี่สูง ทำงานอย่างไร?

หลักการทำงานคือการใช้ “ลม” แทน “แรงมือ” โดยเครื่องกำเนิดลมจะส่งแรงดันอากาศความถี่สูง (Air Pulses) เข้าไปในเสื้อกั๊ก (Vest) ที่ผู้ป่วยสวมใส่ แล้วเกิดการพองและยุบตัวสลับกันอย่างรวดเร็ว สร้างแรงสั่นสะเทือนที่ “นุ่มนวลแต่ส่งผ่านทะลุทะลวง” ไปทั่วผนังทรวงอก ซึ่งส่งผลต่อเสมหะโดยตรง 3 ขั้นตอน

  1. แรงสั่นจะเข้าไปตัดแรงยึดเกาะระหว่างเสมหะกับผนังหลอดลม ทำให้เสมหะที่เกาะแน่นหลุดร่อนออกมา
  2. การสั่นสะเทือนต่อเนื่องช่วยลดความข้นหนืดของเสมหะ ทำให้เสมหะเหลวตัวลง
  3. แรงดันลมจะช่วยดันเสมหะจากปอดส่วนลึกและส่วนปลาย ให้เคลื่อนตัวมารวมกันที่ทางเดินหายใจส่วนต้น เพื่อให้ผู้ป่วยไอหรือดูดออกได้ง่ายขึ้น

เครื่องสั่นปอดความถี่สูง(HFCWO) มีข้อดีอย่างไร?

  • มาตรฐานการแพทย์:  มีความปลอดภัยสูง
  • ระบบอัตโนมัติ: ตั้งเวลา ความแรง และความถี่ได้ตามความเหมาะสม
  • ครอบคลุม: แรงสั่นกระจายทั่วปอดทุกส่วนพร้อมกัน ไม่ต้องคอยขยับมือเคาะทีละจุด
  • ลดภาระผู้ดูแล: ใช้งานง่ายที่บ้าน ญาติสามารถทำเรื่องอื่นได้ระหว่างเครื่องทำงาน

** ต้องอยู่ในการดูแลของผู้เชียวชาญ


เครื่องสั่นปอดความถี่สูง Amoul รุ่น P30 (HFCWO Vest Therapy System)

0.00 บาท

เครื่องสั่นปอดความถี่สูง Amoul รุ่น P30 เป็นอุปกรณ์สำหรับช่วยระบายเสมหะและสารคัดหลั่งในปอดด้วยเทคนิคการสั่นสะเทือนความถี่สูง (HFCWO) ตัวเครื่องใช้งานง่ายด้วยหน้าจอสัมผัส และสามารถปรับตั้งค่าแรงดันและความถี่ได้ตามต้องการ เหมาะสำหรับทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โดยมีเสื้อกั๊กให้เลือกหลายขนาด พร้อมรองรับระบบพ่นยาเพื่อการรักษาที่ครบถ้วน

ราคาพิเศษ ราคาพิเศษ

3. ทางเลือกราคาประหยัด: การประยุกต์ใช้เครื่องนวด

หากเครื่อง HFCWO ราคาสูงเกินงบประมาณ ปัจจุบันมีการนำเครื่องนวดสำหรับพักผ่อนมาประยุกต์ใช้ (Chest Physiotherapy Application) ซึ่งเป็นที่นิยมในกลุ่มนักกายภาพบำบัด

การประยุกต์ใช้เครื่องนวดสั่นปอด

แม้จะเป็นเครื่องนวดกล้ามเนื้อ แต่ด้วยกำลังมอเตอร์ทำให้เกิดแรงสั่นสะเทือนที่ “สม่ำเสมอ” และหน้าสัมผัสที่กว้าง  เพียงพอที่จะช่วยไล่เสมหะได้

จุดเด่นของเครื่องนวด ในการสั่นปอด:

  • แรงสั่นลึก: เข้าถึงชั้นกล้ามเนื้อและปอดได้ดีกว่าการใช้มือตบ
  • ทนทาน: มอเตอร์ญี่ปุ่น รองรับการใช้งานหนัก
  • อเนกประสงค์: ใช้เคาะปอดผู้ป่วย และใช้นวดคลายกล้ามเนื้อให้ผู้ดูแลได้ด้วย

ตารางเปรียบเทียบ: เลือกวิธีไหนดีที่สุด?

หัวข้อเปรียบเทียบการเคาะด้วยมือเครื่องนวด (Thrive 717W)เครื่องสั่นปอด (HFCWO P30)
ประสิทธิภาพขึ้นอยู่กับบุคลากรปานกลาง – ดีดีเยี่ยม (มาตรฐาน รพ.)
ความสะดวกใช้แรงมากประหยัดแรงอัตโนมัติ
ความเหมาะสมผู้ป่วยทั่วไปผู้ที่งบจำกัด / เริ่มต้นใช้ใน รพ. ลดภาระงานนักกายภาพ

สรุป: สุขภาพปอดที่ดีเริ่มจากเลือกเครื่องมือที่เหมาะสม

การดูแลทางเดินหายใจเป็นเรื่องสำคัญ การเลือกใช้ เครื่องสั่นปอดความถี่สูง (ระบบเสื้อ HFCWO) หรือเครื่องนวด Thrive 717W ล้วนดีกว่าการปล่อยให้เสมหะคั่งค้าง การลงทุนกับอุปกรณ์เหล่านี้คือการลงทุนกับ “คุณภาพชีวิต” ของผู้ป่วย และ “เวลา” ของผู้ดูแล

หากต้องการคำแนะนำเพิ่มเติม
เราพร้อมให้คำปรึกษา แนะนำวิธีการใช้งานที่ถูกต้อง

082-526-1102


อ้างอิง
การเคาะปอดจัดท่าระบายเสมหะ: โรงพยาบาลบางปะกอก 9
เครื่องสั่นปอดความถี่สูงระบบอัตโนมัติ

สินค้าแนะนำ